อัปเดตเทรนด์ดาต้าเซ็นเตอร์และทำความเข้าใจกลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์ในประเทศไทย

ปัจจุบัน เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ส่งผลให้ความต้องการใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยีคลาวด์เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ทรู ไอดีซีจะมาเจาะลึกแนวโน้มดาต้าเซ็นเตอร์ที่จะเป็นไปในอนาคต รวมถึงแนวโน้มของเทคโนโลยีคลาวด์ ที่จะมีการนำกลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์มาปรับใช้ในองค์กรกันมากขึ้นในงาน TTT 2022 Reinforce: Enterprise IT Infrastructure Day

แนวโน้มดาต้าเซ็นเตอร์ประเทศไทยในอนาคต

หากจัดลำดับตามขนาดตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศที่มีตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดคือประเทศสิงคโปร์ รองลงมาคือมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ตามลำดับ แต่รู้หรือไม่ว่า หากจัดลำดับตามปริมาณเงินลงทุนแล้ว ประเทศสิงคโปร์กลับไม่ได้มีการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์สูงที่สุด สาเหตุหลักเป็นเพราะนโยบายรัฐบาลของสิงคโปร์ จำกัดปริมาณการใช้พลังงานในกลุ่มผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยเหตุนี้ ประเทศมาเลเซียจึงคว้าอันดับหนึ่งไปครอง และเมื่อกล่าวถึงการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย พบว่ามีผู้ลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์จากต่างประเทศให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก อัตราการเติบโตด้านการลงทุนสูงถึง 23.5% ต่อปี การลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ มักมาจากเหล่าผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำของโลกรายต่าง ๆ 

ดาต้าเซ็นเตอร์จะมีทิศทางการเติบโตไปในแนวทางใด

1. ดาต้าเซ็นเตอร์แบบควบคุมอัตโนมัติ (Data Center Automation) คือดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีการนำเอาหุ่นยนต์ (Robotic Process Automation) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น

2. ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีการประมวลผลแบบใกล้แหล่งข้อมูล (Edge Computing) กล่าวคือ เมื่อองค์กรพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะกันมากขึ้นในปัจจุบัน ดาต้าเซ็นเตอร์จึงต้องกระจายหน่วยประมวลผลไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อให้ใกล้แหล่งข้อมูลมากขึ้น

3. ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความยั่งยืน (Sustainability) คือดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จากรายงานพบว่า ปัจจุบัน ดาต้าเซ็นเตอร์ยังใช้พลังงานในระดับต่ำ เพียง 1% เท่านั้น ทั้งที่มีเวิร์กโหลดเพิ่มขึ้นทุกปี ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ได้ปรับใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด

เจาะลึกแนวโน้มเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย 

1. นำกลยุทธ์ FinOps มาปรับใช้เพื่อบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบริการคลาวด์ในส่วนต่าง ๆ กลยุทธ์นี้เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสำคัญมากในปัจจุบัน นับเป็นตัวช่วยให้องค์กรทราบข้อมูลเชิงลึก เช่น ติดตามยอดการใช้งานคลาวด์ในแต่ละเดือน หรือติดตามยอดการใช้งานของแต่ละหน่วยงานภายในองค์กร เพื่อประเมินและปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานต่อไป

2. ปรับใช้ Cloud Native กับผู้ให้บริการคลาวด์กันมากขึ้น

3. บริการคลาวด์จะถูกปรับใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่ม SMEs เนื่องจากช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยชำระค่าบริการตามการใช้งานจริง หมดกังวลเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

4. หลากหลายองค์กรจะปรับใช้มัลติคลาวด์มากขึ้นในอนาคต 

กลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์คืออะไร. 

ในบางครั้ง การใช้งานบริการคลาวด์ส่วนบุคคล (Private Cloud) ขององค์กรใด ๆ อาจไม่เพียงต่อความต้องการใช้งานขององค์กร จึงมีความจำเป็นต้องขยายขนาดและเพิ่ม Workload ด้วยการเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) เกิดเป็นไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) เพื่อให้องค์กรมีฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องการ

และในการเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์สาธารณะดังกล่าว อาจมีกรณีที่องค์กรต้องเชื่อมต่อกับบริการคลาวด์สาธารณะมากกว่า 1 ราย เพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานทุกฟังก์ชัน ทำให้เกิดการเชื่อมต่อแบบมัลติคลาวด์ (Multi-Cloud) เพื่อดึงจุดแข็งของผู้ให้บริการคลาวด์แต่ละแบรนด์ออกมาใช้

กรณีที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เรียกว่าการใช้กลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่หลายองค์กรนำไปปรับใช้จริง ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือ องค์กรสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการคลาวด์ได้หลากหลายแบรนด์ในคราวเดียว ไม่มีการผูกขาดกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง องค์กรสามารถควบคุมความปลอดภัยและการเข้าถึงข้อมูลส่วนที่อยู่ในบริการคลาวด์ส่วนบุคคลได้ ซึ่งสอดคล้องกับกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย

กลยุทธ์ไฮบริดมัลติคลาวด์ถูกนำไปใช้ในกรณีใดบ้าง

1. ใช้ในการ Deploy แอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันแตกต่างกัน บนแพลตฟอร์มคลาวด์แต่ละแบรนด์

2. ใช้ทำ Disaster Recovery (DR) ระหว่างแพลตฟอร์มของคลาวด์แบรนด์ต่าง ๆ 

3. ใช้แลกเปลี่ยน Data Integration ระหว่างแพลตฟอร์มของคลาวด์แบรนด์ต่าง ๆ โดยการนำข้อมูลมาประมวลผลบนแพลตฟอร์มหนึ่งและนำไปแสดงผลบนอีกแพลตฟอร์ม

รับชมรีรัน

สำหรับองค์กรที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Colocation บริการ True IDC Cloud หรือต้องการรับคำปรึกษาจากทีมงานมืออาชีพของ True IDC ติดต่อเราได้ที่ https://www.trueidc.com/th/contact