True IDC เผยแผนสู่ความสำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด Cloud และ Data Center
24 พ.ค. 2561 //= substr($strYear,2,2)?>
เปิดมุมมอง คุณศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป/ประธานคณะผู้บริหารผ่ายเทคโนโลยีของ True IDC เจ้าของตำแหน่งผู้ให้บริการ Data Center และระบบ Cloud ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทยประจำปี 2018 โดย Frost & Sullivan ถึงแนวทางและแผนยุทธศาสตร์ที่ทำให้ True IDC ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดด้าน Data Center และ Cloud
True IDC ผู้ให้บริการ Cloud และ Data Center ยอดเยี่ยมโดย Frost & Sullivan
True Internet Data Center (True IDC) เป็นผู้ให้บริการ Data Center และระบบ Cloud ชั้นนำของประเทศไทย ได้รับรางวัล 2018 Thailand Data Center Service Provider of the Year และรางวัล 2018 Thailand Cloud Service Provider of the Year จาก Frost & Sullivan ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านการตลาดระดับโลก เนื่องจากมีการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศและเป็นที่ยอมรับ ทั้งยังสามารถสร้างความเติบโตด้านรายได้อย่างโดดเด่นด้วยด้วยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการแบบครบวงจร (End-to-end Services) หรือการสร้างมูลค่าด้วยการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายแบบเสรี (Carrier-neutral) ซึ่งจนถึงตอนนี้ True IDC เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลด้าน Data Center และ Cloud Service Provider จาก Frost & Sullivan Thailand Excellence Awards ถึง 2 รายการในปีเดียวกัน
เตรียมรุกตลาด Data Center และ Cloud ในไทยตั้งแต่ปี 2014
คุณศุภรัฒศ์ระบุว่า True IDC เริ่มวางแผนก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด Data Center และ Cloud ตั้งแต่ปี 2014 โดยจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2014 – 2017) ซึ่งขณะนั้นประเทศไทยมีผู้ให้บริการ Data Center แล้วหลายราย ในขณะที่เทคโนโลยี Cloud Computing เพิ่งเริ่มถูกใช้งานเฉพาะในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม True IDC ประเมินว่าเทคโนโลยี Cloud Computing คงเข้าสู่ประเทศไทยในอีก 6 – 9 เดือนข้างหน้า จึงตัดสินใจลงทุนวางโครงข่ายสำหรับให้บริการระบบ Cloud เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต
“คำถามสำคัญของเราในปี 2014 คือ จะเกิด Cloud Adoption ขึ้นในประเทศไทยแล้วหรือยัง ซึ่งเรามองว่าคงได้ฤกษ์แล้ว แต่ยังเร็วไปประมาณ 6 – 9 เดือน ดังนั้นถ้า True IDC ลงทุน ณ เวลานั้น ย่อมมีต้นทุนที่ต่ำกว่า และจะกลายเป็นผู้ให้บริการระบบ Cloud รายแรกๆ ของประเทศไทย เราจึงตัดสินใจรับความเสี่ยง เพื่อเปิดโอกาสในการก้าวขึ้นไปครองตำแหน่งผู้นำด้าน Cloud ในอนาคต” คุณศุภรัฒศ์กล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ในปี 2014
นอกจากนี้ True IDC ยังประเมินไว้อีกว่า เทคโนโลยี Cloud Computing กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจของทุกอุตสาหกรรมในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นการให้บริการแค่ Infrastructure อย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อการตอบโจทย์เรื่องการทำ Digital Trasformation ของลูกค้า ด้วยเหตุนี้ True IDC จึงเปิดบริการ One Stop Shop ซึ่งเป็นการให้บริการโซลูชัน IT แบบครบวงจร โดยอาศัยประสบการณ์การสนับสนุนทางด้านดิจิทัลแก่บริษัทภายในเครือ ทำให้ True IDC เข้าใจธุรกิจของลูกค้า และมีแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรม
Data Center ต้องให้บริการเทคโนโลยีล่าสุด และลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ True IDC ได้รับรางวัลผู้ให้บริการ Data Center ยอดเยี่ยมจาก Frost & Sullivan ถึง 6 ปีติดต่อกันนั้น คุณศุภรัฒศ์ระบุว่า เนื่องจาก True IDC สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมี Service Operations ที่ครบครัน โดย True IDC ขยาย Data Center ทุกปีเพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า และทุกครั้งที่มีการขยาย Data Center ทาง True IDC จะเลือกนำเทคโนโลยีล่าสุด ณ เวลานั้นๆ เข้ามาให้บริการ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้บริการที่ดีที่สุดสำหรับพร้อบตอบโจทย์ความต้องการที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ปัจจุบันนี้ True IDC มี Data Center รวมทั้งหมด 4 แห่ง โดยมีศูนย์ทรู ไอดีซี – นอร์ท เมืองทอง รองรับพื้นที่กรุงเทพตอนเหนือ ศูนย์ทรู ไอดีซี – มิดทาวน์ รัชดา และ ทรู ไอดีซี – มิดทาวน์ พัฒนาการ ให้บริการย่านใจกลางกรุงเทพ และล่าสุด ศูนย์ทรู ไอดีซี – อีสต์ บางนา เจาะพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออก โดยมีจุดเด่นตรงที่มีการเชื่อมต่อ Data Center ทั้ง 4 แห่งเข้าด้วยกันเป็นแพลตฟอร์มกลาง เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการทรัพยากรภายใน Data Center ทั้งหมดได้เสมือนมี Data Center ขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว
จับมือพันธมิตรรายใหญ่ให้บริการ Cloud ด้วยมาตรฐานระดับสากล
ในส่วนของบริการบนระบบ Cloud นั้น True IDC ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ถึง 3 ราย ได้แก่ AWS, Microsoft Azure และ Google Cloud ซึ่ง True IDC ได้รับรางวัลผู้ให้บริการระบบ Cloud ยอดเยี่ยมจาก Frost & Sullivan เนื่องจากมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการ AWS ที่ True IDC ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และอันดับ 3 ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการให้บริการระบบ Cloud ได้เป็นอย่างดี
ล่าสุด True IDC ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเปิดให้บริการ Hybrid Cloud เพื่อให้ลูกค้าสามารถย้ายระบบจาก Data Center ไป Cloud หรือ Cloud กลับมายัง Data Center ได้อย่างอิสระ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการให้บริการและเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกใช้ Infrastructure ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด
“True IDC ของเราผ่านมาตรฐานระดับสากลหลายรายการ เช่น ISO และ CSA STAR เนื่องจากบางครั้งนโยบายและข้อกำหนดต่างๆ อาจจะยังไม่มีความชัดเจน ทำให้เกิดความสับสนในการเลือกใช้บริการต่างๆ ใบรับรองและมาตรฐานเหล่านี้จึงเสมือนเป็นแนวทางที่แนะนำให้ลูกค้าเข้ามาเลือกใช้ เพราะเป็นสิ่งที่ระดับสากลให้การยอมรับ” คุณศุภรัฒศ์กล่าวถึงเรื่องใบรับรองและการผ่านมาตรฐานต่างๆ ของ True IDC
เป้าหมายอีก 3 ปีข้างหน้า ยังมุ่งมั่นครองความเป็นผู้นำตลาด Data Center และ Cloud
สำหรับแผนยุทธศาสตร์ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2018 – 2020) คุณศุภรัฒศ์ระบุว่า True IDC ยังคงตั้งเป้าหมายไว้เหมือนเดิม นั่นคือ การครองความเป็นผู้นำตลาด Data Center และระบบ Cloud แต่สถานการณ์ของตลาดในประเทศไทยเปลี่ยนไปแล้ว กล่าวคือ ก่อนหน้านี้ในปี 2014 True IDC พยายามให้ความรู้และผลักดันอุตสาหกรรมต่างๆ ให้หันมาใช้ระบบ Cloud แต่ในปัจจุบัน ประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทำ Cloud Adoption เร็วและแพร่หลาย ส่งผลให้มีผู้ให้บริการเทคโนโลยีระบบ Cloud เป็นจำนวนมาก ดังนั้น การแข่งขันจะไม่ใช่ประเด็นว่าใครมีเทคโนโลยีสำหรับสนับสนุนระบบ Cloud อีกต่อไป แต่จะเป็นการแข่งขันด้านความเชี่ยวชาญและโซลูชันที่นำเสนอต่อลูกค้า เพื่อสร้างมูลค่าของบริการและทำให้บริษัทของลูกค้าเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
“True IDC เคยผลักดันตลาดให้เปลี่ยนไปใช้ระบบ Cloud และตอนนี้ก็ได้เพิ่มบริการ Value Added Services เพื่อให้บริษัทต่างๆ ทั้ง Startup, SME และองค์กรขนาดใหญ่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที ช่วยลดปัญหาเรื่องการลงทุนระบบฮาร์ดแวร์ และค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา ที่สำคัญคือเราเข้าใจธุรกิจของลูกค้า เนื่องจาก True IDC ให้บริการระบบดิจิทัลแก่บริษัทอื่นๆ ในเครือ True Corporation เช่นกัน ทำให้เราสามารถให้คำแนะนำและนำเสนอแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจแต่ละประเภทได้” — คุณศุภรัฒศ์กล่าวถึงทิศทางของตลาด Cloud ในอนาคต
นอกจากนี้ True IDC ยังเตรียมทำการตลาดเชิงรุก โดยเข้าไปมีส่วนร่วมกับหน่วยงานและธุรกิจหลายๆ ประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคาร ธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานราชการ เช่น มีการพูดคุยกับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เกี่ยวกับประเด็นด้านข้อกำหนดและข้อบังคับ เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวและทิศทางของอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าได้ทุกประเด็น และเตรียมโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าได้ ในขณะที่ฝั่งลูกค้าเองก็สามารถวางแผนและตัดสินใช้บริการได้เร็วยิ่งขึ้น
“จนถึงตอนนี้ ผมสามารถบอกได้ว่า True IDC ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้าน Data Center และ Cloud ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่เราครองอันดับ 1 ในปี 2017 โดยมีรายได้เติบโต 30% จากจุดแข็งที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ มีใบรับรองตามมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น ISO และ CSA STAR รวมไปถึงได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำระดับโลกทั้ง Frost & Sullivan และสถาบัน Uptime” — คุณศุภรัฒศ์กล่าวปิดท้าย